Customer Reviews

สิ่งที่ยากที่สุดในการเรียนภาษาจีน คือการจดจำตัวอักษร เนื่องจากภาษาจีนไม่มีการผสมพยัญชนะ สระ ตัวสะกด แต่หนึ่งตัวอักษร หมายถึง หนึ่งคำ ดังนั้นผู้เรียนจึงต้องจดจำตัวอักษรจำนวนมากนับพันตัวอักษร จึงจะสามารถอ่านและสื่อสารภาษาจีนได้อย่างดี

หนังสือ “1000 หนึ่งพันอักษรจีน” เป็นคู่มือเรียนลัดที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี โดยผู้เขียนได้รวบรวมอักษรจีนที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวันจำนวนประมาณ 1,000 ตัวอักษร มาแต่งประโยค จำนวนทั้งสิ้น 50 ประโยค แบ่งออกเป็นบท บทละ 1 ประโยค เพื่อในแต่ละบทจะอธิบายเสียงอ่านและความหมายของแต่ละคำในประโยคนั้นๆ พร้อมตัวอย่างการนำคำไปผสมกับคำอื่น ทำให้ได้เรียนรู้ศัพท์ที่มีความหมายแตกต่างออกไปอีก

เป้าหมายของการเรียนภาษาจีนจากหนังสือเล่มนี้คือ หากเรียนวันละ 1 บท เมื่อครบ 50 วันก็จะจบเล่ม เท่ากับผู้เรียนจะรู้คำศัพท์หนึ่งพันกว่าคำ ซึ่งจะสามารถอ่านหนังสือพิมพ์จีนได้ทันที 80-90% ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนเพื่อเขียนหรืออ่านภาษาจีนมากกว่าการเรียนเพื่อฟังหรือพูด เพราะเน้นให้จดจำตัวอักษร แต่ไม่ได้แนะนำประโยคที่ใช้สนทนาในชีวิตประจำวัน

ผู้ที่เหมาะกับหนังสือเล่มนี้ ควรเป็นผู้ที่เคยเรียนภาษาจีนมาบ้าง อย่างน้อยควรอ่านพินอิน (pinyin) ได้ และควรรู้วิธีการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีน เพราะถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีอ่านทั้งแบบ pinyin และถอดเสียงเป็นคำอ่านภาษาไทย แต่หากอ่าน pinyin ได้ ก็จะสามารถออกเสียงได้ถูกต้องกว่า นอกจากนี้ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สอนการเขียนลำดับขีดของแต่ละตัวอักษร ดังนั้นถ้าฝึกเขียนด้วยตัวเองโดยไม่รู้วิธีการเขียนลำดับขีดมาก่อน ก็อาจจะสับสน จำวิธีเขียนไม่ได้

ถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะบอกว่าเป็นคู่มือเรียนลัด แต่ผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้อย่างได้ผล ควรเป็นผู้ที่มีความตั้งใจเรียนภาษาจีนจริงๆ เพราะการจดจำตัวอักษรจำนวนมากไม่ใช่เรื่องง่าย แม้หนังสือจะรวบรวมคำศัพท์และแต่งประโยคไว้ให้ท่องจำไว้อย่างดีแค่ไหน แต่ผู้เรียนก็ต้องมีวินัยและขยันอ่านทบทวน ไม่อย่างนั้นจะเกิดความท้อแท้และยิ่งรู้สึกว่าการเรียนภาษาจีนเป็นเรื่องยากมากขึ้นไปอีก

สิ่งที่ยากที่สุดในการเรียนภาษาจีน คือการจดจำตัวอักษร เนื่องจากภาษาจีนไม่มีการผสมพยัญชนะ สระ ตัวสะกด แต่หนึ่งตัวอักษร หมายถึง หนึ่งคำ ดังนั้นผู้เรียนจึงต้องจดจำตัวอักษรจำนวนมากนับพันตัวอักษร จึงจะสามารถอ่านและสื่อสารภาษาจีนได้อย่างดี

หนังสือ “1000 หนึ่งพันอักษรจีน” เป็นคู่มือเรียนลัดที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี โดยผู้เขียนได้รวบรวมอักษรจีนที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวันจำนวนประมาณ 1,000 ตัวอักษร มาแต่งประโยค จำนวนทั้งสิ้น 50 ประโยค แบ่งออกเป็นบท บทละ 1 ประโยค เพื่อในแต่ละบทจะอธิบายเสียงอ่านและความหมายของแต่ละคำในประโยคนั้นๆ พร้อมตัวอย่างการนำคำไปผสมกับคำอื่น ทำให้ได้เรียนรู้ศัพท์ที่มีความหมายแตกต่างออกไปอีก

เป้าหมายของการเรียนภาษาจีนจากหนังสือเล่มนี้คือ หากเรียนวันละ 1 บท เมื่อครบ 50 วันก็จะจบเล่ม เท่ากับผู้เรียนจะรู้คำศัพท์หนึ่งพันกว่าคำ ซึ่งจะสามารถอ่านหนังสือพิมพ์จีนได้ทันที 80-90% ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการเรียนเพื่อเขียนหรืออ่านภาษาจีนมากกว่าการเรียนเพื่อฟังหรือพูด เพราะเน้นให้จดจำตัวอักษร แต่ไม่ได้แนะนำประโยคที่ใช้สนทนาในชีวิตประจำวัน

ผู้ที่เหมาะกับหนังสือเล่มนี้ ควรเป็นผู้ที่เคยเรียนภาษาจีนมาบ้าง อย่างน้อยควรอ่านพินอิน (pinyin) ได้ และควรรู้วิธีการเขียนลำดับขีดตัวอักษรจีน เพราะถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีอ่านทั้งแบบ pinyin และถอดเสียงเป็นคำอ่านภาษาไทย แต่หากอ่าน pinyin ได้ ก็จะสามารถออกเสียงได้ถูกต้องกว่า นอกจากนี้ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้สอนการเขียนลำดับขีดของแต่ละตัวอักษร ดังนั้นถ้าฝึกเขียนด้วยตัวเองโดยไม่รู้วิธีการเขียนลำดับขีดมาก่อน ก็อาจจะสับสน จำวิธีเขียนไม่ได้

ถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะบอกว่าเป็นคู่มือเรียนลัด แต่ผู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้อย่างได้ผล ควรเป็นผู้ที่มีความตั้งใจเรียนภาษาจีนจริงๆ เพราะการจดจำตัวอักษรจำนวนมากไม่ใช่เรื่องง่าย แม้หนังสือจะรวบรวมคำศัพท์และแต่งประโยคไว้ให้ท่องจำไว้อย่างดีแค่ไหน แต่ผู้เรียนก็ต้องมีวินัยและขยันอ่านทบทวน ไม่อย่างนั้นจะเกิดความท้อแท้และยิ่งรู้สึกว่าการเรียนภาษาจีนเป็นเรื่องยากมากขึ้นไปอีก

หนังสือ “ประวัติศาสตร์จีนฉบับย่อ” เล่มนี้ เรียบเรียงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่นับ 5,000 ปีของจีน ตั้งแต่ยุคจีนโบราณ ถึง การล่มสลายของราชวงศ์ชิง มาอยู่ในหนังสือขนาด 591 หน้าเพียงเล่มเดียว

ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่แค่ความสามารถในการรวมรวมข้อมูล แต่ยังอยู่ที่การเขียนได้อย่างน่าอ่าน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป

ผู้เขียนแบ่งเนื้อหาออกเป็น 12 บทตามยุคสมัย ตั้งแต่ 1) ยุคจีนโบราณ 2) ราชวงศ์เซี่ย, ซาง และโจวตะวันตก 3) ยุคชุนชิวและยุคจ้านกว๋อ 4) ราชวงศ์ฉิน 5) ยุคฮั่นตะวันตกและฮั่นตะวันออก 6) ยุคสามก๊ก ราชวงศ์จิ้นตะวันตกและจิ้นตะวันออก 7) ราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถัง 8) ยุค 5 ราชวงศ์ 10 อาณาจักร 9) ราชวงศ์ซ่ง เหลียว ซีเซี่ย และจิน 10) ราชวงศ์หยวน 11) ราชวงศ์หมิง และ 12) ราชวงศ์ชิง แต่ละบทยังแบ่งออกเป็นหัวข้อบอกเล่าเรื่องราวในภาพรวมของยุค เหตุการณ์สำคัญ และความรู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมภาพประกอบทั้งภาพวาดและภาพถ่ายตลอดเล่ม นอกจากนี้ยังแยกรายละเอียดออกมาเป็นเกร็ดความรู้แทรกอยู่ด้านข้างของหน้ากระดาษสำหรับผู้ที่สนใจอ่านเพิ่มเติม ทำให้เนื้อหาหลักแต่ละหัวข้อไม่ยืดเยื้อเกินไป อ่านง่าย สบายตา และเลือกอ่านเฉพาะหัวข้อที่สนใจได้ง่าย

ภาษาที่ใช้เป็นภาษาง่ายๆ จึงอ่านง่าย ไม่น่าเบื่อ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านนิทานเรื่องเล่ามากกว่าอ่านประวัติศาสตร์

หนังสือเล่มนี้ช่วยให้รู้เรื่องราว เข้าใจเหตุการณ์ และมองเห็นวิวัฒนาการ หรือความเสื่อมถอยที่เกิดขึ้นในจีนแต่ละยุคสมัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สนใจศึกษาประวัติศาสตร์จีน ทั้งผู้ที่ไม่เคยรู้ประวัติศาสตร์จีนเลย หรือผู้ที่เคยอ่านประวัติศาสตร์จีนมาแล้วและต้องการหนังสือสักเล่มที่จะช่วยสรุปให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น

หนังสือ “ประวัติศาสตร์จีนฉบับย่อ” เล่มนี้ เรียบเรียงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่นับ 5,000 ปีของจีน ตั้งแต่ยุคจีนโบราณ ถึง การล่มสลายของราชวงศ์ชิง มาอยู่ในหนังสือขนาด 591 หน้าเพียงเล่มเดียว

ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่แค่ความสามารถในการรวมรวมข้อมูล แต่ยังอยู่ที่การเขียนได้อย่างน่าอ่าน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป

ผู้เขียนแบ่งเนื้อหาออกเป็น 12 บทตามยุคสมัย ตั้งแต่ 1) ยุคจีนโบราณ 2) ราชวงศ์เซี่ย, ซาง และโจวตะวันตก 3) ยุคชุนชิวและยุคจ้านกว๋อ 4) ราชวงศ์ฉิน 5) ยุคฮั่นตะวันตกและฮั่นตะวันออก 6) ยุคสามก๊ก ราชวงศ์จิ้นตะวันตกและจิ้นตะวันออก 7) ราชวงศ์สุยและราชวงศ์ถัง 8) ยุค 5 ราชวงศ์ 10 อาณาจักร 9) ราชวงศ์ซ่ง เหลียว ซีเซี่ย และจิน 10) ราชวงศ์หยวน 11) ราชวงศ์หมิง และ 12) ราชวงศ์ชิง แต่ละบทยังแบ่งออกเป็นหัวข้อบอกเล่าเรื่องราวในภาพรวมของยุค เหตุการณ์สำคัญ และความรู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมภาพประกอบทั้งภาพวาดและภาพถ่ายตลอดเล่ม นอกจากนี้ยังแยกรายละเอียดออกมาเป็นเกร็ดความรู้แทรกอยู่ด้านข้างของหน้ากระดาษสำหรับผู้ที่สนใจอ่านเพิ่มเติม ทำให้เนื้อหาหลักแต่ละหัวข้อไม่ยืดเยื้อเกินไป อ่านง่าย สบายตา และเลือกอ่านเฉพาะหัวข้อที่สนใจได้ง่าย

ภาษาที่ใช้เป็นภาษาง่ายๆ จึงอ่านง่าย ไม่น่าเบื่อ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านนิทานเรื่องเล่ามากกว่าอ่านประวัติศาสตร์

หนังสือเล่มนี้ช่วยให้รู้เรื่องราว เข้าใจเหตุการณ์ และมองเห็นวิวัฒนาการ หรือความเสื่อมถอยที่เกิดขึ้นในจีนแต่ละยุคสมัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สนใจศึกษาประวัติศาสตร์จีน ทั้งผู้ที่ไม่เคยรู้ประวัติศาสตร์จีนเลย หรือผู้ที่เคยอ่านประวัติศาสตร์จีนมาแล้วและต้องการหนังสือสักเล่มที่จะช่วยสรุปให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น